Author name: [email protected]

จบจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีประสบการณ์ในการเขียน Blog และอยู่ในวงการออนไลน์ มามากกว่า 10 ปี Youtube : Turnoff Chennel / ผู้ก่อตั้งกลุ่ม สอน SEO in Thailand / www.turnoffweb.com

Trend SEO 2024

Trend SEO 2024

SEO ในปัจจุบันมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งวันนี้เราจะพามาดูครับว่า เทรนด์การทำ SEO ในปี 2024 จะมีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้เราทำให้ติด Search Engine ในอันดับที่ดีกันครับ เทรนด์ของการทำ SEO 2024 ใช้ ai กันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การพูดเอาเท่แต่ปัจจุบัน ai อย่าง chatgpt มีส่วนอย่างมากในการช่วยเขียนคอนเท้นท์ หรือการให้ ai ช่วยคิดอะไรต่างๆ มากมาย SEO ไม่ใช่เพียงแค่เขียนคอนเท้นท์ ยังมีสิ่งต่างๆ ที่นิยมมากๆ ในการทำ SEO ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หน้าเว็บไซต์ แผนที่ หรือ วีดีโอก็ตาม Google Core Web Vitals มีความสำคัญเรื่องการโหลดและการ Responsive บนมือถือ Search Intent สิ่งสำคัญ และยังต้องทำต่ออย่างต่อเนื่อง เข้าใจว่าคน ค้นหาต้องการอะไรกันแน่ และทำสิ่งนั้นให้ตอบโจทย์ทุกช่องทาง ai วิเคราะห์ การมี ai […]

Trend SEO 2024 Read More »

เลขาฯ กบข. ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ ปรับโครงสร้างสู่ ESG

เลขาฯ กบข. ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ ปรับโครงสร้างสู่ ESG

ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์, เลขาธิการของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), ได้นำการลงทุนของ กบข. ไปสู่แนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) อย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนที่สอดคล้องกับหลักการ ESG ทั้งสามมิติ ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม, มิติบุคคลในองค์กร, และมิติความโปร่งใสขององค์กร. กบข. พยายามคัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่า ESG ที่ดี และนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่มีคุณภาพ โดยการลงทุนดังกล่าวไม่ได้มองข้ามเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ต้องทำอย่างจริงจังและมีกรอบการทำงานที่ชัดเจน. กบข. ยังนำหลักการลงทุนแบบรับผิดชอบขององค์การสหประชาชาติมาใช้เป็นกรอบในกระบวนการการลงทุนด้วย นอกจากนี้ กบข. ยังให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ความสามารถด้าน ESG เพื่อสนับสนุนการลงทุนที่ยั่งยืน. อีกทั้ง กบข. ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เช่น บริษัทเอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก เพื่อกำหนดข้อมูลสำหรับการตีมูลค่าการลงทุน ESG และใช้ข้อมูลนี้เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจด้านการลงทุน. ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกบข. ที่จะเป็นผู้นำและเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดการลงทุนแบบ ESG ของประเทศไทย และเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนทางการเงินไปพร้อมกับการส่งเสริมความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม​ ประวัติ เลขาฯ กบข. ประวัติ ดร.

เลขาฯ กบข. ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ ปรับโครงสร้างสู่ ESG Read More »

เครื่องสำรองไฟโรงงาน เลือกแบบไหนดี

เครื่องสำรองไฟโรงงาน เลือกแบบไหนดี

การเลือกเครื่องสำรองไฟสำหรับโรงงานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความต้องการด้านพลังงาน, ขนาดของโรงงาน, และงบประมาณที่มี นี่คือข้อพิจารณาหลักๆ ในการเลือกเครื่องสำรองไฟ: โดยทั่วไปแล้ว เครื่องสำรองไฟสำหรับโรงงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ สำหรับโรงงานที่มีกำลังไฟฟ้าที่ต้องการสำรองสูง ระยะเวลาที่ต้องการสำรองไฟฟ้านาน และต้องการระบบสำรองไฟที่มีประสิทธิภาพสูง ควรเลือกใช้เครื่องสำรองไฟแบบออนไลน์ ส่วนโรงงานที่มีกำลังไฟฟ้าที่ต้องการสำรองไม่สูง ระยะเวลาที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไม่นาน และต้องการระบบสำรองไฟที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ควรเลือกใช้เครื่องสำรองไฟแบบออฟไลน์ นอกจากนี้ โรงงานยังสามารถเลือกเครื่องสำรองไฟแบบผสม (Hybrid UPS) ซึ่งเป็นระบบสำรองไฟที่รวมเอาข้อดีของเครื่องสำรองไฟแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยระบบสำรองไฟแบบผสมจะจ่ายไฟฟ้าจากเครื่องสำรองไฟแบบออนไลน์ไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าตลอดเวลา และในกรณีที่ไฟฟ้าดับ ระบบสำรองไฟแบบออฟไลน์จะทำงานแทน เพื่อให้ไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง การเลือกเครื่องสำรองไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานของโรงงานนั้น จะช่วยให้โรงงานสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นแม้ไฟฟ้าดับ การตัดสินใจที่ดีควรพิจารณาถึงสถานการณ์และความต้องการเฉพาะของโรงงานของคุณ เพื่อให้ได้เครื่องสำรองไฟที่เหมาะสมที่สุด การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรไฟฟ้าก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเพื่อช่วยในการตัดสินใจ. บริษัท ชินโค ไคเซ็น จํากัด เป็นผู้จัดจำหน่าย ให้เช่า ออกแบบ ติดตั้ง  พัดลมอุตสาหกรรม มาตรฐานญี่ปุ่น ยี่ห้อ ONISHI ท่อลม เครื่องเชื่อมอุตสาหกรรม PANASONIC และอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงให้กับหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม บริษัทของเรามีสินค้าให้เลือกหลากหลาย เช่น พัดลมอุตสาหกรรม โอนิชิ (Onishi) พัดลมระบายอากาศ พัดลมกันระเบิด พัดลมถังกลม พัดลมท่อ พัดลมโรงงาน พัดลมฟาร์ม ระบบ

เครื่องสำรองไฟโรงงาน เลือกแบบไหนดี Read More »

YDM เปิดรากฐาน “มาร์เก็ตติ้ง ทรานส์ฟอร์เมชัน” แนะ 4 ทริค เลือก MarTech ที่ใช่ แท็กทีม STEPS Academy ชี้ “Team up” กุญแจสำคัญ เสริมศักยภาพแบรนด์

YDM แนะ 4 ทริค เลือก MarTech ที่ใช่!! STEPS Academy ชี้ “Team up” กุญแจสำคัญ ของการตลาดยุคใหม่

YDM Thailand เปิด 3 รากฐานมาร์เก็ตติ้งทรานส์ฟอร์ม พร้อมเผย 4 ขั้นตอน เลือก MarTech ที่ใช่ตอบโจทย์แบรนด์ ชู CDP ตัวช่วยเริ่มต้นทรานส์ฟอร์มการตลาด ด้วยจุดเด่นใช้งานง่าย ติดตามข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ STEPS Academy แนะทริค 6 ขั้นตอนทำความรู้จักแบรนด์สร้างจุดแข็งเพิ่มโอกาสธุรกิจ ชี้ “Team up” คือกุญแจสำคัญ บริหารคนดึงศักยภาพที่มี ผนึก Outsource ที่ปรึกษาด้านการตลาดหนุนกำลังเชิงกลยุทธ์ ทำงานร่วมกับข้อมูลในการทรานส์ฟอร์มการตลาดอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ทักษะใหม่บนภาวะแข่งขันทางการตลาด  นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล เปิดเผยว่า รากฐานของความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มทางการตลาดมี 3 องค์ประกอบหลักที่สำคัญ คือ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี จากประสบการณ์ทำงานของ YDM ร่วมกับแบรนด์ในการทรานส์ฟอร์มการตลาดสู่ดิจิทัล พบว่าองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุดคือ “คนในองค์กร” โดยเฉพาะในระดับผู้บริหาร โดยส่วนมากจะติดกับดักวิธีการคิดและการทำงานแบบเดิม ๆ ทำให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ยาก แต่ถ้าแบรนด์ได้ทีมทำงานที่มีวิธีคิดที่ถูกต้อง การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน และการเลือกเทคโนโลยี MarTech ที่เหมาะสมมาใช้เพื่อการทรานส์ฟอร์มทางการตลาดก็สามารถเพิ่มโอกาสความสำเร็จสูงตามไปด้วย นายณัฐพล จิตงามพงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายดาต้าเทคโนโลยี บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการปรับกระบวนการทำงาน แบรนด์ต้องมีการปรับวิธีการมอง Segment ผู้บริโภคเป็นแบบ Behavioural Journey Based Segmentationโดยจะต้องทำการเก็บข้อมูลในทุก Touchpoints ทั้ง online และ offline โดยเก็บไว้ใน CDP (Customer Data Platform) เพื่อทำความรู้จักกับผู้บริโภคแต่ละคนในเชิงลึก เพื่อปลดล็อควิธีการทำการตลาดแบบใหม่โดยการใช้ Data และ MarTech เพื่อได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

YDM แนะ 4 ทริค เลือก MarTech ที่ใช่!! STEPS Academy ชี้ “Team up” กุญแจสำคัญ ของการตลาดยุคใหม่ Read More »

วิธีทำ Auto Pop Up Flatsome Theme

วิธีทำ Auto Pop Up Flatsome Theme

วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำ Pop up สำหรับ Theme Flatsome กันครับ ส่วนสำคัญของโค้ดชุดนี้คือ auto_open คือ ให้เปิดอัตโนมัติหรือป่าว true คือ ใช่ false คือ ไม่auto_timer คือ ระยะเวลาหน่วงการเปิดauto_show คือ เปิดตลอดเวลา หรือ ครั้งเดียว onesblock id คือ UX Blocks ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อให้แสดงผลการออกแบบในหน้าที่เราใส่โค้ดชุดด้านบนไว้width คือ ค่าความกว้าง หน่วยเป็น Pixelpadding คือ ค่าความกว้างของขอบ 2. ออกแบบ ดีไซน์ในส่วนของ UX Blocks เพื่ออกแบบ Popup ให้สวยงาม วิธีการก็สามารถทำได้ง่ายๆ ครับไม่ยาก ถ้าใครพอเขียนโค้ดเป็นก็สบายเลยคับ

วิธีทำ Auto Pop Up Flatsome Theme Read More »

เทรนด์ธุรกิจอนาคต 2024

Future Trend จัดเสวนาเทรนด์ธุรกิจอนาคต 2024 อัดแน่นความรู้จากกูรูหลากหลายวงการ

FUTURE TRENDS AHEAD PRESS & PURPOSE งานสัมมนาแห่งปีจาก FUTURE TRENDS ที่อัปเดตเทรนด์แห่งอนาคตเพื่อเป็นผู้ชนะของวันพรุ่งนี้ ให้ทุกธุรกิจ พร้อมเปิดตัวหนังสือ Future Trends Ahead 2024 เจาะลึกทุกกลยุทธ์เพื่อเตรียมรับมือโลกยุคใหม่ในปี 2024 Future Trends สื่อผู้นำด้านความคิด และผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยีการตลาด และนวัตกรรมชั้นนำของประเทศไทย จัดงาน FUTURE TRENDS AHEAD PRESS & PURPOSE สุดยอดงานสัมมนาแห่งปี กับการอัปเดตเทรนด์แห่งอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพทางความคิด พร้อมเปิดตัว Future Trends Ahead 2024 คัมภีร์เจาะลึกทุกกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ จากกูรูผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายแวดวง เพื่อช่วยติดปีกทางความคิด ที่บุคคลในทุกวงการห้ามพลาด ทั้งด้านเศรษฐกิจ, การเมือง, เทคโนโลยีและ AI, การเงินและการลงทุน, ความยั่งยืน, ผู้บริโภค, การตลาด, ทักษะอนาคต, ผู้นำ, สุขภาพ และเมืองกับไลฟ์สไตล์ ธนโชติ

Future Trend จัดเสวนาเทรนด์ธุรกิจอนาคต 2024 อัดแน่นความรู้จากกูรูหลากหลายวงการ Read More »

Keyword match types มีอะไรบ้าง

Keyword match types มีอะไรบ้าง

ใน Google Ads และแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์อื่นๆ, “Keyword match types” คือกลไกที่กำหนดวิธีที่คำหลักของคุณจะจับคู่กับคำค้นหาของผู้ใช้งาน มีหลายประเภทของการจับคู่คำหลัก แต่ละประเภทมีความยืดหยุ่นและความเฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกัน: การเลือกประเภทของการจับคู่คำหลักที่เหมาะสมสำคัญมากต่อความสำเร็จของแคมเปญโฆษณาออนไลน์ของคุณ เนื่องจากมันจะช่วยควบคุมคุณภาพและความเกี่ยวข้องของการเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายของคุณ. เทคนิคในการเลือกใช้ Keyword Match แต่ละประเภท การเลือกใช้ Keyword Match Type ที่เหมาะสมในแคมเปญโฆษณาออนไลน์ของคุณเป็นเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้มีประสิทธิภาพ แต่ละประเภทของ Keyword Match มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นการใช้งานอย่างมีกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ: ความเหมาะสมกับการใช้ Match Keyword Broad match Phrase match Exact match Negative match นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอื่นๆ ในการเลือกใช้ Keyword Match แต่ละประเภท ดังนี้ โดยสรุปแล้ว การเลือกประเภทของ Keyword Match ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแคมเปญโฆษณาของคุณ หากคุณพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างรอบคอบแล้ว จะช่วยให้คุณเลือกประเภทของ Keyword Match ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายของแคมเปญโฆษณา

Keyword match types มีอะไรบ้าง Read More »

Broad match Keyword คืออะไร

Broad match Keyword คืออะไร

Broad match keyword ในการตลาดดิจิทัลและโฆษณาออนไลน์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกการจับคู่คำหลักที่ใช้ใน Google Ads หรือแพลตฟอร์มโฆษณาอื่นๆ แบบ broad match ช่วยให้โฆษณาของคุณมีโอกาสปรากฏเมื่อผู้ค้นหาใช้คำหลักที่คล้ายคลึงหรือมีความเกี่ยวข้องกับคำหลักที่คุณเลือก แม้ว่าการเรียงคำหรือการใช้คำจะต่างกันไป ตัวอย่างของ Broad match keyword: ข้อดีของการใช้ Broad match: ข้อเสียของการใช้ Broad match: ด้วยเหตุนี้ การใช้ broad match keyword จึงควรมีการประเมินและติดตามผลอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้จ่ายสำหรับโฆษณานั้นมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณ. นี่คือวิธีการทำงาน: เมื่อคุณป้อนคำหลักเป็นคำหลักที่ทำงานแบบกว้าง โฆษณาของคุณจะมีสิทธิ์แสดงสำหรับการค้นหาที่มีคำทั้งหมดในคำหลักของคุณ ตามลำดับใดก็ได้ และมีคำเพิ่มเติมตัวอย่างเช่น หากคำหลักของคุณคือ “รองเท้าวิ่ง” โฆษณาของคุณอาจแสดงสำหรับการค้นหาเช่น “ซื้อรองเท้าวิ่งออนไลน์” “รองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น” หรือแม้แต่ “รองเท้าวิ่งขายใกล้ฉัน”Google Ads อาจแสดงโฆษณาของคุณสำหรับการค้นหาที่มีคำพ้อง การสะกดผิด หรือคำที่เกี่ยวข้อง เช่น “รองเท้าวิ่งจ๊อกกิ้ง” หรือ “รองเท้าผ้าใบ”ประโยชน์ของการใช้คำหลักที่ทำงานแบบกว้าง: เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น: การทำงานแบบกว้างช่วยให้คุณเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นซึ่งกำลังค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเพิ่มการแสดงผลและการคลิก: ด้วยการแสดงโฆษณาของคุณสำหรับการค้นหาที่กว้างขึ้น คุณจะสามารถเพิ่มจำนวนการแสดงผลและคลิกที่โฆษณาของคุณได้รับค้นพบคำหลักใหม่: การทำงานแบบกว้างสามารถช่วยให้คุณค้นพบคำหลักใหม่ที่คุณอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน

Broad match Keyword คืออะไร Read More »

ROI คืออะไร

ROI คืออะไร

“ROI” ย่อมาจาก “Return on Investment” ซึ่งเป็นหน่วยวัดทางการเงินที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพของการลงทุนหรือเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลงทุนหลายๆ อย่างกันเอง โดยทั่วไป ROI จะคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์และสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจได้ว่าการลงทุนนั้นๆ มีความคุ้มค่าหรือไม่ สูตรการคำนวณ ROI คือ: ROI=(กำไรจากการลงทุน−ต้นทุนการลงทุนต้นทุนการลงทุน)×100%ROI=(ต้นทุนการลงทุนกำไรจากการลงทุน−ต้นทุนการลงทุน​)×100% ในสูตรนี้: ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณลงทุน 1000 บาทและได้กำไรจากการลงทุน 200 บาท ก็จะได้ ROI เป็น 20%: ROI=(200−10001000)×100%=20%ROI=(1000200−1000​)×100%=20% ROI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการประเมินว่าการลงทุนนั้นมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน และมักใช้ในการเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่นๆ หรือเพื่อประเมินการลงทุนในโครงการหรือธุรกิจต่างๆ ตัวอย่างการใช้ ROI ROI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน อย่างไรก็ตาม ROI เป็นเพียงตัวเลขหนึ่งตัวเท่านั้น ไม่สามารถบอกได้ว่าการลงทุนนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ ความเสี่ยง ความยั่งยืน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ROI สำหรับการทำ Digital Marketing ROI สำหรับการทำ Digital Marketing หมายถึงการวัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมการตลาดดิจิทัล เช่น

ROI คืออะไร Read More »

Pillar Content คืออะไร

Pillar Content คืออะไร

Pillar Content คือ คอนเทนต์หลักหรือคอนเทนต์หัวข้อใหญ่ ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย โดยจะเป็นคอนเทนต์ที่มีความครอบคลุมและครอบคลุมเนื้อหาย่อย ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คอนเทนต์ย่อย ๆ เหล่านี้เรียกว่า Satellite Content Pillar Content มีความสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ เพราะช่วยให้เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของคุณมีโครงสร้างที่ชัดเจนและดึงดูดผู้เข้าชมได้ โดยคอนเทนต์ย่อย ๆ จะช่วยเสริมสร้างเนื้อหาของ Pillar Content ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตัวอย่างของ Pillar Content เช่น ในการกำหนด Pillar Content ให้กับเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของคุณ คุณสามารถพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ เมื่อคุณกำหนด Pillar Content ได้แล้ว คุณควรสร้างเนื้อหาย่อย ๆ ที่มีคุณภาพและน่าสนใจ เพื่อให้ Pillar Content ของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด วิธีทำ Pillar Content Strategy กลยุทธ์เนื้อหาหลักคือกลยุทธ์การตลาดด้วยเนื้อหาที่มุ่งเน้นการสร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมและให้ข้อมูลซึ่งครอบคลุมหัวข้อกว้างๆ เนื้อหานี้จะถูกเชื่อมโยงและสนับสนุนโดยเครือข่ายเนื้อหาที่เกี่ยวข้องซึ่งเรียกว่าคลัสเตอร์หัวข้อ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์เนื้อหาหลัก: กำหนดกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของพวกเขา คุณพยายามเข้าถึงใครด้วยเนื้อหาของคุณ? ความสนใจและปัญหาของพวกเขาคืออะไร?ระบุหัวข้อหลักของคุณ ประเด็นหลักที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณคืออะไร? สิ่งเหล่านี้จะเป็นหัวข้อเนื้อหาหลักของคุณค้นคว้าและสร้างเนื้อหาหลักที่ครอบคลุม

Pillar Content คืออะไร Read More »