NotebookLM คืออะไร
NotebookLM คืออะไร

NotebookLM คืออะไร? ทำไมนักการตลาดยุค 2025–2026 ควรรู้จัก “notebook lm” ให้ลึกกว่าชื่อ

Table of Contents

  1. บทนำ: จากโน้ตธรรมดา สู่ “ห้องปฏิบัติการข้อมูล” สำหรับนักการตลาด

  2. NotebookLM (notebook lm) คืออะไร—สั้น กระชับ ได้ใจความ

  3. ฟีเจอร์เด่นที่ทำให้ notebook lm ต่างจาก AI ตัวอื่น

  4. เวิร์กโฟลว์ MarTech: ใช้ notebook lm ตั้งแต่รีเสิร์ช → บรีฟ → โปรดักชัน → รีพอร์ต

  5. 6 ยูสเคสจริงสำหรับทีม Marketing, Content, SEO และ Sales Enablement

  6. การจัดการแหล่งข้อมูล (Sources), Citation และความน่าเชื่อถือ

  7. Video/Audio Overviews: เปลี่ยนดาต้าให้กลายเป็น “เรื่องเล่าเข้าใจง่าย”

  8. New learning tools: Quiz & Flashcards—เอามาใช้กับทีมได้อย่างไร

  9. ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และข้อจำกัดที่ควรรู้

  10. เปรียบเทียบกับเครื่องมือใกล้เคียง และวิธีเลือกใช้ร่วมกัน

  11. Roadmap 30–60–90 วัน เพื่อให้ notebook lm สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ

  12. บทสรุป + ข้อเสนอบริการ/โซลูชันที่ต่อยอดได้ทันที


1) บทนำ: จากโน้ตธรรมดา สู่ “ห้องปฏิบัติการข้อมูล” สำหรับนักการตลาด

หลายทีมยังติดกับดัก “เปิดสิบแท็บแล้วสลับอ่าน” หรือเก็บ PDF/สไลด์เป็นกอง แต่หยิบใช้ยาก notebook lm มองปัญหานี้ต่างออกไป—แทนที่จะเป็นโน้ตเฉย ๆ มันกลายเป็น “AI Research & Thinking Partner” ที่ช่วยอ่าน ทำความเข้าใจ และสังเคราะห์สิ่งที่คุณอัปโหลด แล้วคืนกลับมาเป็นโครงเรื่อง ไอเดีย และสรุปที่ อิงหลักฐานจากแหล่งข้อมูลจริง ของคุณโดยตรง Google NotebookLM


2) NotebookLM (notebook lm) คืออะไร—สั้น กระชับ ได้ใจความ

NotebookLM เริ่มจากโปรเจ็กต์ Project Tailwind (Google I/O 2023) ก่อนถูกตั้งชื่อใหม่และพัฒนาต่อเรื่อย ๆ จุดยืนคือ “AI-first notebook” ที่ออกแบบมาจากฐานคิดว่าโน้ต ควรฉลาดตั้งแต่ต้น และ ยึดโยงกับแหล่งข้อมูล ที่ผู้ใช้เลือก ไม่ใช่ “เดา” มั่ว ๆ จากเว็บทั้งโลก blog.google

ปี 2025 Google ขยายความสามารถและการเข้าถึงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านภาษาและภูมิภาค (รวมถึงการยกระดับฟีเจอร์ด้านสื่อมัลติมีเดียในตัว) ทำให้ notebook lm ถูกใช้กว้างขวางขึ้นทั้งสายศึกษา งานวิจัย และสายธุรกิจ/มาร์เก็ตติ้ง blog.google+1


3) ฟีเจอร์เด่นที่ทำให้ notebook lm ต่างจาก AI ตัวอื่น

(ก) Source-grounded Answers
อัปโหลดแหล่งข้อมูล (PDF, สไลด์, บทความ, ทรานสคริปต์วิดีโอ ฯลฯ) แล้วถาม–ตอบบนฐานข้อมูลนั้น ๆ คำตอบมี citation ชี้กลับ ไปยังหน้า/ย่อหน้าที่เกี่ยวข้อง ทำให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย (ลด hallu และเพิ่มความน่าเชื่อถือ) Google NotebookLM

(ข) Discover Sources (แนะนำแหล่งข้อมูลจากเว็บ)
กรอกหัวข้อ → ระบบจะสแกนเว็บ คัดแหล่งที่น่าเชื่อถือพร้อมสรุปย่อและเหตุผลที่แนะนำ (แสดงไม่เกิน ~10 แหล่ง) เหมาะกับการ “บูสต์” งานรีเสิร์ชให้ครบถ้วนก่อนทำสรุป/บรีฟ blog.google+1

(ค) Audio & Video Overviews
กดปุ่มเดียวให้ AI สรุป “สาระจากโน้ตของเรา” ออกมาเป็น ออดิโอแบบพอดแคสต์ 2 โฮสต์ หรือวิดีโอสไลด์โชว์บรรยาย ช่วยเปลี่ยนข้อมูลเยอะ ๆ ให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่ทีมเข้าใจตรงกัน—เหมาะกับการสรุปสปอนเซอร์เด็ค บรีฟแคมเปญ หรือบทเรียนทีมขาย blog.google+1

(ง) ทำงานบน Gemini (รุ่นใหม่)
แกนหลักของ NotebookLM รันบน Gemini รุ่นล่าสุด ทำให้จัดการคอนเทนต์หลายไฟล์ยาว ๆ และข้อมูลมัลติโหมดได้คล่องตัวขึ้น (และเทคโนโลยี Audio Overview ยังถูกนำไปใช้ใน Gemini Apps ด้วย) blog.google+1

(จ) พร้อมใช้งานหลายภาษา/ภูมิภาค
อัปเดตปี 2025 ขยายภาษา/ประเทศมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มความสามารถของ Audio/Video Overviews หลายภาษา เหมาะกับทีมระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องทำสื่อหลายภาษาในเวลาเดียวกัน blog.google+1

(ฉ) โหมดเรียนรู้: Quiz/Flashcards
ชุดเครื่องมือใหม่สำหรับทำ แฟลชการ์ด/แบบทดสอบ จากเอกสารที่อัปโหลด—ดีมากสำหรับ on-boarding ทีมขาย สอนสินค้าใหม่ หรือเทรนเอเจนซี่พาร์ตเนอร์ให้เข้าใจแบรนด์เดียวกัน TechRadar


4) เวิร์กโฟลว์ MarTech: ใช้ notebook lm ตั้งแต่รีเสิร์ช → บรีฟ → โปรดักชัน → รีพอร์ต

  1. ตั้งโจทย์รีเสิร์ช: ใส่คำถามธุรกิจ (เช่น “พลบค่ำของ organic reach บนแพลตฟอร์ม X ในไทย 2026”) แล้วใช้ Discover Sources เพื่อรวบรวมแหล่งข้อมูลตั้งต้นที่น่าเชื่อถือ

  2. อัปโหลดหลักฐานภายใน: เพิ่มรีพอร์ตแบรนด์, A/B test เดิม, สไลด์ campaign retrospective

  3. สรุปเชิงกลยุทธ์: ให้ notebook lm สังเคราะห์เป็น insight + implication + risk พร้อม citation

  4. บรีฟทีมครีเอทีฟ/มีเดีย: ใช้ Video/Audio Overviews เพื่อบรีฟแบบ 5–10 นาที ให้ทุกฝ่าย “เห็นภาพเดียวกัน”

  5. ทำรายการส่งงาน (deliverables): สร้างโครงบทความ, คอนเทนต์แผนที่ช่องทาง, guideline key message

  6. รีพอร์ตผล: อัปโหลดดาต้าหลังจบแคมเปญ ให้สรุปเป็น executive summary + แผนแก้เกมรอบถัดไป


5) 6 ยูสเคสจริงสำหรับทีม Marketing, Content, SEO และ Sales Enablement

  • SEO Content Blueprint: รวม SERP research, customer voice, whitepaper → ให้สรุปหัวข้อ pillar/cluster, FAQ แบบมีที่มา แล้วส่งต่อทีมเขียนทันที

  • Thought Leadership: อัปโหลด deck วิจัย/สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ → สรุป narrative + key quote พร้อมซอร์ส

  • Social Playbook: รวมโพสต์ที่ perform ดี/แย่ + คอมเมนต์ลูกค้า → ให้ notebook lm สกัด pattern + do/don’t

  • Competitive Intel: รวมหน้าเว็บคู่แข่ง, earnings call transcript, รีวิวลูกค้า → สังเคราะห์ point-of-parity/difference

  • Sales Enablement: ใส่ product sheets + case studies → สร้าง Audio Overview 5 นาทีสำหรับ SDR ใหม่

  • Training/Onboarding: สร้าง Flashcards/Quiz จากเอกสารแบรนด์—ทีมใหม่ขึ้นของเร็วและสม่ำเสมอ TechRadar


6) การจัดการแหล่งข้อมูล (Sources), Citation และความน่าเชื่อถือ

หัวใจของ notebook lm คือ คำตอบยึดโยงกับเอกสารแหล่งที่เราเลือก ไม่ใช่ข้อมูลสุ่มมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ทุกสรุป/ตัวอย่าง/อินไซต์อ้างอิงได้—เหมาะอย่างยิ่งกับองค์กรที่ต้องการ traceability (เช่น การเงิน/เฮลท์แคร์/EdTech) และให้ทีมกดดูแหล่งที่มาเพื่อ ตรวจสอบทันที ก่อนอนุมัติโพสต์หรือสไลด์พรีเซนต์ Google NotebookLM

เมื่ออยาก “เสริม” แหล่งภายนอก ให้ใช้ Discover Sources เพื่อคัดลิงก์ที่เกี่ยวข้องที่สุดพร้อมหมายเหตุย่อ ๆ ช่วยลดเวลาคัดกรองในขั้น pre-research ได้มาก (และดีต่อ compliance เพราะเห็นเหตุผลที่ระบบเลือกแหล่งนั้น) blog.google


7) Video/Audio Overviews: เปลี่ยนดาต้าให้กลายเป็น “เรื่องเล่าเข้าใจง่าย”

  • Audio Overviews: คลิกเดียวให้ AI สร้างบทสนทนาแบบพอดแคสต์ 2 โฮสต์ที่คุยกันบนฐานเอกสารของเรา—เหมาะมากกับการสรุป deck ยาว ๆ เป็นไฟล์เสียงให้ผู้บริหารฟังระหว่างเดินทาง blog.google

  • Video Overviews: ฟีเจอร์ใหม่ช่วยทำ “สไลด์โชว์บรรยาย” ดึงภาพ/ไดอะแกรม/โควต/ตัวเลขจากโน้ต สื่อสารไอเดียยาก ๆ ให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกันในไม่กี่นาที (มีแผนขยายภาษาอย่างต่อเนื่อง) The Verge

  • รองรับหลายภาษา/พื้นที่เพิ่มขึ้น: Google ประกาศขยาย Audio/Video Overviews หลายภาษาและหลายประเทศอย่างต่อเนื่องในปี 2025 เหมาะมากกับทีมภูมิภาคที่ต้องสื่อสารข้ามประเทศ blog.google+1


8) New learning tools: Quiz & Flashcards—เอามาใช้กับทีมได้อย่างไร

  • Onboarding SDR/AM: สร้างชุดคำถามจาก battlecard + FAQ ให้ทีมใหม่ฝึกจนคล่อง

  • Certified Partner: อัปโหลด playbook แล้วให้ notebook lm ทำข้อสอบย่อย—ผ่านเกณฑ์จึงปล่อยสิทธิ์รันแคมเปญ

  • Knowledge Retention: หลังจบ workshop อัปโหลดสไลด์/ทรานสคริปต์ → สร้างแฟลชการ์ดรายสัปดาห์ให้ทีมทบทวน
    ฟีเจอร์นี้เพิ่งอัปเดตและใช้งาน “จริงจัง” ได้มากขึ้นในช่วงล่าสุด ทำให้ NotebookLM ขยับจาก “เครื่องมือสรุป” ไปเป็น “เครื่องมือเรียนรู้เชิงรุก” ได้เต็มตัว TechRadar


9) ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และข้อจำกัดที่ควรรู้

  • ข้อมูลอยู่ภายใต้บัญชี Google ขององค์กร (ถ้าใช้เวอร์ชัน Workspace/Business) และสามารถกำหนดสิทธิ์ในระดับโน้ต/โฟลเดอร์ได้ (อัปเดตช่องทาง Workspace มีความคืบหน้าเปิดกว้างขึ้นสำหรับลูกค้าองค์กร/การศึกษา) blog.google+1

  • ข้อจำกัดทางภาษา/เสียง: แม้ฟีเจอร์ audio/video จะขยายภาษาแล้ว แต่คุณภาพเชิงลึกอาจต่างกันบ้างตามภาษา—แนะนำทดสอบจริงกับภาษาทีมก่อนนำไปใช้ในงานลูกค้า blog.google

  • การตีความต้นฉบับ: แม้มี citation แต่บางครั้งโมเดล “สรุปสั้นเกินไป”—แนะนำเปิดส่วนที่อ้างอิงประกบและเพิ่ม context ด้วยมนุษย์ก่อนเผยแพร่ภายนอก


10) เปรียบเทียบกับเครื่องมือใกล้เคียง และวิธีเลือกใช้ร่วมกัน

  • Gemini Apps: เหมาะกับคุย–คิดไอเดียเร็ว ๆ และทำงานกับไฟล์หลากหลาย (Audio Overview เทคโนโลยีเดียวกับ NotebookLM) แต่หากงานต้อง “ตรึงกับแหล่ง” และจัดเป็นโน้ตรวมแหล่ง NotebookLM จะเหมาะกว่า Gemini

  • Perplexity / “Deep Research”: เก่งดึงเว็บล่าสุดและให้เอกสารอ้างอิงหลายมุม—ใช้คู่กับ NotebookLM ได้ดี (นำผลวิจัยที่คัดแล้วเข้า notebook เพื่อสรุปและสร้าง deliverables)

  • Notion / Obsidian: ดีในการเป็น knowledge base ระยะยาว—แต่หากต้องการ “AI ที่คุยบนแหล่งแบบเข้ม” และทำสื่อสรุปเสียง/วิดีโออัตโนมัติ ตอนนี้ notebook lm เด่นกว่า


11) Roadmap 30–60–90 วัน เพื่อให้ notebook lm สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ

Day 0–30

  • สร้าง “Brand Master Notebook” รวม brand book, ICP, case studies, FAQ

  • ทดลอง Discover Sources สำหรับ 3 หัวข้อที่ทีมทำซ้ำ ๆ (เช่น SEO Topic Cluster, Thought Leadership)

  • เปิดใช้ Audio Overview เพื่อบรีฟผู้บริหารประจำสัปดาห์

Day 31–60

  • ตั้งมาตรฐาน Citation-first ในทุกสรุป/สไลด์ภายใน

  • นำ Quiz/Flashcards ไปใช้ on-boarding ทีมขาย/เอเจนซี่

  • วัดผล: เวลารีเสิร์ชลดลงกี่ %, ความเร็วผลิตบรีฟ/เด็ค, คุณภาพงาน (feedback)

Day 61–90

  • เปิด “Executive Overviews” รายเดือนแบบวิดีโอ 5–7 นาทีสรุปตลาด/คู่แข่ง

  • เชื่อม SOP: โน้ตสำคัญจะต้องเข้าสู่ NotebookLM + ใช้ template สรุปมาตรฐาน

  • สร้าง Content Factory: จากโน้ตเดียวแตกเป็น บทความ/โพสต์/สคริปต์วิดีโอ


12) บทสรุป + ข้อเสนอบริการ/โซลูชันที่ต่อยอดได้ทันที

ในโลกที่ข้อมูลล้นทะลัก notebook lm ทำหน้าที่เป็น ห้องปฏิบัติการข้อมูล ที่ให้ทีมมาร์เก็ตติ้ง “คิดบนหลักฐาน” สื่อสารง่าย (ผ่านเสียง/วิดีโอ) และส่งมอบงานได้เร็วขึ้น—โดยยังคง ความน่าเชื่อถือ ผ่าน citation และการคุมแหล่งที่มาชัดเจน

ถ้าคุณอยาก “ย้ายงานคิดงานเขียน” มาอยู่บนฐานข้อมูลจริง และทำให้ทีมทำงานเร็วขึ้นเป็นเท่า—เริ่มจากตั้ง Master Notebook ของแบรนด์ แล้วให้เราช่วยออกแบบเวิร์กโฟลว์ notebook lm แบบพร้อมใช้

  • ตั้งแหล่งข้อมูล/สิทธิ์ใช้งานให้ปลอดภัย (องค์กร/เอเจนซี่/พาร์ตเนอร์)

  • สร้างเทมเพลตบรีฟ/รีเสิร์ช/รีพอร์ต พร้อม KPI วัดผล

  • เทรนนิ่งทีม: Discover Sources, Citation-first, Audio/Video Overviews & Quiz

  • ดูแลการใช้งาน 90 วันแรก จนเกิดผลลัพธ์ที่วัดได้